กล่องกระดาษเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ไม่เป็นเพียงการห่อหุ้มป้องกันสินค้าเท่านั้น
แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการขายโดยใช้การสกรีนรูปแบบข้างกล่องในการโฆษณาสินค้า
โดยการสกรีนข้างกล่องนั้นมีวิธีที่นิยมอยู่ 2 วิธี ได้แก่
1. การสกรีนด้วยสีเชื้อน้ำหรือการพิมพ์แบบ Flexo เหมาะสำหรับกล่องที่ไม่ต้องการรายละเอียดที่มากนัก
ใช้กับการพิมพ์ลงบนกระดาษลูกฟูกประเภทกระดาษคราฟท์ซึ่งเป็นกระดาษผิวหยาบ
2. การสกรีนแบบ Offset ซึ่งเป็นวิธีการสกรีนที่สามารถให้รายละเอียดได้มากเหมาะกับการสกรีนลงบนกระดาษกล่องแป้ง
หรือ กระดาษ Art Card ที่มีเนื้อกระดาษละเอียด แล้วจึงนำไปประกบลอนลูกฟูก หรือ ไม่ประกบก็ได้
กล่องกระดาษลูกฟูก Corrugated Carton เป็นกล่องที่ผลิตจากกระดาษลูกฟูกประเภทกระดาษคราฟท์
หรือ กระดาษกล่องแป้งที่นำไปประกบลูกฟูกก็ได้ เป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีบทบาทสูงมีน้ำหนักเบา
สามารถออกแบบรูปทรงได้หลากหลาย
กระดาษลูกฟูก มีองค์ประกอบที่สำคัญ 2 ส่วน
1. กระดาษผิวหน้า (Liner)
2.กระดาษลอนลูกฟูก (Corrugated Medium)
1. กระดาษผิวหน้า (Liner) เป็นกระดาษที่ติดบนกระดาษลอนลูกฟูก สำหรับการพิมพ์แบบ
Flexo นั้นจะพิมพ์ลงบนกระดาษคราฟท์ ส่วนการพิมพ์แบบ Offset นั้นนิยมพิมพ์ลงบนกระดาษกล่องแป้ง
หรือกระดาษ Art Card
กระดาษแผ่นเรียบ ( Liner Board ) - คือ กระดาษแผ่นเรียบที่ติดอยู่กับลอนลูกฟูก
ลอนลูกฟูก ( Corrugated Medium ) - คือ ส่วนของกระดาษที่มีลักษณะเป็นคลื่น และอยู่ติดกับแผ่น
Liner board
ชนิดของกระดาษคราฟท์
กระดาษคราฟท์ที่เรานำมาทำแผ่นกระดาษลูกฟูก มีหลายประเภท หลากสีสัน และคุณภาพการนำไปใช้งานก็แตกต่างกัน
โดยหลักๆเกรดกระดาษที่ใช้ มีดังต่อไปนี้
|
KS or KW กระดาษคราฟท์สำหรับทำผิวกล่องเกรดนี้ เป็นกระดาษทำผิวด้านนอกเป็นสีขาว มีความแข็งแรงและสวยงามเป็นพิเศษ
ช่วยเพิ่มคุณค่าของสินค้าที่บรรจุ
การใช้งาน : นิยมใช้ในการทำกล่องบรรจุสินค้าประเภท ผัก ผลไม้และดอกไม้เพื่อการส่งออก
เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารทะเลแช่แข็งช่วยเพิ่มคุณค่าของสินค้าที่บรรจุแต่จะมีราคาค่อนข้างแพง
น้ำหนักมาตรฐาน 170 แกรม
|
|
KA เป็นกระดาษคราฟท์ สำหรับทำผิวกล่องเกรด KA ที่มีผิวด้านนอก เป็นสีน้ำตาลทอง หรือน้ำตาลเข้ม
มีคุณสมบัติความแข็งแรงทนทาน กันความชื้นได้บาง นิยมทำเป็นกล่องบรรจุสินค้า เพื่อการส่งออก
การใช้งาน : เหมาะสำหรับการผลิตกล่องบรรจุสินค้าทุกชนิด สินค้าทีมีน้ำหนักมาก หรือกล่องทีต้องขนส่งระยะทางไกลๆวางทับกันหลายชั้นได้แก่
เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์แผงวงจรไฟฟ้า อาหารทะเลแช่แข็ง ชิ้นส่วนยานยนต์
รวมถึงสินค้าอุปโภคและบริโภคต่างๆ น้ำหนักมาตรฐาน มี 125,150,185,230 แกรม
|
|
KI เป็นกระดาษคราฟท์สำหรับทำผิวกล่องเกรด KI มีคุณสมบัติความแข็งแรงและความทนทาน ปานกลาง
เหมาะสำหรับทำเป็นกล่องบรรจุสินค้าในประเทศ
การใช้งาน : นิยมใช้ในการทำกล่องบรรจุสินค้าต่างๆ ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องแก้ว,ผ้าอนามัย,สินค้าอุปโภคและบริโภค
เป็นต้น ราคาค่อนข้างถูก น้ำหนักมาตรฐาน มี 125,150,185 แกรม
|
|
CA หรือ M เป็นกระดาษคราฟสำหรับทำลอนลูกฟูก มีคุณสมบัติ ด้านความแข็งแรง ในการป้องกันแรงกระแทก
เหมาะสมกับการทำลอนลูกฟูกขนาดต่างๆ ตามที่ต้องการ ราคาจะถูกสุด
การใช้งาน : ใช้สำหรับทำลอนลูกฟูกแบบต่างๆ ,กระดาษผิวกล่องด้านใน และไส้กล่องสำหรับกั้นสินค้าไม่ให้กระทบกระแทรกกันขณะขนย้าย
น้ำหนักมาตรฐาน มี 125 แกรม
|
กระดาษกล่องแป้ง หรือกระดาษหน้าขาวหลังเทา มีน้ำหนักมาตรฐานที่นิยมได้แก่ 310 , 350
, 400 , 450 แกรม เป็นกระดาษที่นิยมนำมาพิมพ์ด้วยระบบ Offset และนำไปประกบลูกฟูก ซึ่งสามารถประกบได้ทั้งลอน
E , B , C , BC ซึ่งการพิมพ์ด้วยระบบนี้ยังสามารถนำไปขัดเงา เคลือบ UV หรือ เคลือบ
OPP ได้อีกด้วย ข้อดีของการใช้กระดาษกล่องแป้งนี้คือราคาถูก เหมาะกับกล่องขนาดเล็กๆ
กระดาษ Art Card มีน้ำหนักมาตรฐานตั้งแต่ 120 แกรม ขึ้นไป มีสีขาวทั้ง 2 ด้านนิยมพิมพ์โปสเตอร์
หรือกล่องกระดาษที่ต้องการความสวยงาม แต่มีราคาแพงกว่ากระดาษกล่องแป้ง
2.กระดาษลอนลูกฟูก (Corrugated Medium) ใช้กระดาษที่ผลิตจากเศษกระดาษมาผลิตลอนลูกฟูก
ชนิดของลอนกระดาษลูกฟูก ลอนลูกฟูก (Corrugations Flute)
เราทุกคนต่างทราบกันดีว่า ถ้าเส้นโค้งนำมาปรับให้เหมาะสม
จะเป็นการทำให้พื้นที่ที่ต้องการทอดข้าม เกิดความแข็งแรงมากที่สุด ดังนั้นผู้ผลิตกระดาษลูกฟูกจึงนำหลักการเดียวกันนี้
เข้ามาใช้ในการผลิตความโค้งของลอนกระดาษลูกฟูก โดยเราเรียกเส้นโค้งของกระดาษนี้ว่า
" ลอนลูกฟูก " และเมื่อนำลอนนี้มาติดกับแผ่นกระดาษเรียบ ( Linerboard ) พวกมันจะสามารถทนทานต่อความโค้งงอ
และ แรงกดได้จากทุกทิศทาง
ลอนลูกฟูกมีหลายชนิด โดยลอนแต่ละประเภทจะมีขนาดและความสูงของลอนไม่เท่ากัน
รวมถึงความเหมาะสมกับการใช้งานก็แตกต่างกันด้วย
ตารางด้านล่างจะเป็นการนำลอนแต่ละชนิดมาเปรียบเทียบ เพื่อทำความเข้าใจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
|
ชนิด
|
ลักษณะ
|
ความสูงของลอน( มิลลิเมตร)
|
จำนวนลอน/ฟุต
|
คุณสมบัติ
|
ลอน A
|
|
4.0-4.8
|
36
|
เหมาะกับสินค้าที่ต้องการรับน้ำหนักการเรียงซ้อนมาก และไม่เน้นการพิมพ์
|
ลอน B
|
|
2.1 - 3.0
|
49
|
เหมาะกับสินค้าที่รับน้ำหนักได้ด้วยตัวมันเอง เช่น กระป๋องเหล็ก
|
ลอน C
|
|
3.2 - 3.9
|
41
|
เป็นที่นิยมใช้กันมาก เหมาะกับสินค้าทั่วๆไปที่รับน้ำหนักได้ปานกลาง
|
ลอน E
|
|
1.0 - 1.8
|
95
|
รองรับการพิมพ์ได้ดีที่สุด เหมาะกับกล่องไดคัทขนาดเล็ก หรือ กล่องออฟเซ็ท
|
ชนิดของแผ่นกระดาษลูกฟูก
โดยทั่วไปแล้ว เราจะแบ่งกระดาษลูกฟูกเป็น 4 ชนิด ตามจำนวนชั้นของกระดาษ
ลอนมาตรฐาน : B, C, E
|
1. Single Face (กระดาษลูกฟูกสองชั้น)
ประกอบไปด้วย กระดาษแผ่นเรียบ 1 แผ่น ปะกบกับลอนลูกฟูก
1 แผ่น นิยมใช้กันกระแทกสินค้า หรือ ปะกล่อง offset
|
ลอนมาตรฐาน : B, C, E
|
2. Single wall (กระดาษลูกฟูกสามชั้น)
ประกอบไปด้วย กระดาษแผ่นเรียบ 2 แผ่น ปะกบกับ ลอนลูกฟูก
1 แผ่น โดยลอนลูกฟูก จะอยู่ตรงกลางระหว่าง กระดาษแผ่นเรียบทั้ง 2 แผ่น มักใช้กับสินค้าที่มีน้ำหนักปานกลาง
หรือ ไม่เน้นความแข็งแรงมาก
|
ลอนมาตรฐาน : BC (ลอนB จะอยู่ด้านนอก ส่วนลอนC จะอยู่ด้านใน)
|
3. Double wall (กระดาษลูกฟูกห้าชั้น)
ประกอบไปด้วย กระดาษแผ่นเรียบ 3 แผ่น ปะกบกับ ลอนลูกฟูก
2 แผ่น โดยกระดาษลอนลูกฟูกที่อยู่ติดกับผิวกล่องด้านนอกจะเป็นลอน B เพื่อประโยชน์ทางการพิมพ์
และ กระดาษลอนลูกฟูกที่อยู่ด้านในจะเป็นลอน C เพื่อประโยชน์ทางด้านรับแรงกระแทก นิยมใช้สำหรับสินค้าที่ต้องการการป้องกันสูง
หรือมีน้ำหนักมาก
|
|
4. Triple Wall (กระดาษลุกฟูก 7 ชั้น)
ประกอบไป ด้วย กระดาษแผ่นเรียบ 4 แผ่น ปะกบกับ ลอนลูกฟูก
3 แผ่น นิยมใช้ในอุตสาหกรรมหนัก ที่ต้องรับน้ำหนักบรรจุเป็นจำนวนมาก เช่นเครื่องจักอุตสาหกรรม
อะไหล่ยานยนต์ เป็นต้น
|
กล่องกระดาษลูกฟูก Corrugated Carton เป็นกล่องที่ผลิตจากกระดาษลูกฟูกประเภทกระดาษคราฟท์
หรือ กระดาษกล่องแป้งที่นำไปประกบลูกฟูกก็ได้ เป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีบทบาทสูงมีน้ำหนักเบา
สามารถออกแบบรูปทรงได้หลากหลาย
ประเภทของกล่องกระดาษลูกฟูก
|
กล่องฝาชน RSC (Regular Slotted Container)
เป็นกล่องที่นิยมมากที่สุดในการบรรจุสินค้าทั่วไป เนื่องจากผลิตได้ง่าย โครงสร้างของกล่องไม่ซับซ้อน
มีฝาเปิดปิดที่กว้างเท่ากัน โดยฝากล่องแผ่นนอกบรรจบกันที่กึ่งกลางกล่องตามด้านยาวของกล่อง
|
|
กล่องฝาเกย FOL (Full Overlap Container)
เป็นกล่องที่เหมาะสำหรับบรรจุสินค้าที่มีน้ำหนักมาก ฝากล่องทุกด้านกว้างเท่ากับด้านกว้างของกล่องพอดี
ทำให้ทับกันสนิท การซ้อนทับกันของฝากล่องทั้งด้านบนและด้านล่าง จะช่วยเสริมความแข็งแรงของกล่องเมื่อมีการวางซ้อนกัน
|
|
กล่องฝาครอบแบบ HSC (Half Slotted Container with Cover)
ประกอบด้วยกล่อง 2 ชิ้น คือ ฝากล่องและตัวกล่อง ตัวกล่องจะปิดเฉพาะด้านล่างโดยส่วนบนจะเปิดเพื่อบรรจุสินค้า
และฝาครอบจะครอบตัวกล่องประมาณสองในสามของความสูงของกล่อง
|
|
พาเชียล โอเวอร์แลป / Partial Overlap Slotted Container
ลักษณะของกล่องคือ ฝากล่องจะไม่เท่ากับครึ่งหนึ่งของด้านกว้าง แต่ฝาทั้ง 4 ด้านจะเท่ากันหมด
|
|
กล่องไดคัท (Die-Cut)
ลักษณะ : ขึ้นอยู่กับความต้องการ และลักษณะของสินค้า มีความแข็งแรง สวยงาม สามารถทำตามรูปร่างของสินค้าได้
การใช้งาน : รูปแบบที่สวยงาม สามารถออกแบบการใช้งานได้ตามความ ต้องการ
|
|
Partition
ลักษณะ : เป็นส่วนประกอบของกล่อง
การใช้งาน : ใช้เพื่อเสริมความแข็งแรง และป้องกันสินค้าภายในไม่ให้เสียดสีเกิดความเสียหาย
|
กล่อง OFFSET
กล่องพิมพ์ออฟเซท
กล่องที่ต้องการพิมพ์ในระบบ Offset และต้องการความ แข็งแรงในการรองรับสินค้า จะใช้การปะแผ่นพิมพ์ลงบน
กระดาษลูกฟูก 2 ชั้น 4 ชั้น และ 6 ชั้น
กล่องพิมพ์ออฟเซทประกบแผ่นลูกฟูก
กล่องที่ต้องการพิมพ์ในระบบ Offset และต้องการความ แข็งแรงในการรองรับสินค้า จะใช้การปะแผ่นพิมพ์ลงบนกระดาษลูกฟูก
2 ชั้น 4 ชั้น และ 6 ชั้น
การวัดขนาดกล่องลูกฟูก กว้าง x ยาว x สูง (ลึก)
|
|
การวัดขนาด กล่องลูกฟูกจะทำการวัดขนาดด้านในของกล่อง ทั้งด้านกว้าง(W )ด้านยาว (L)
และด้านสูง(H) หรือD ส่วนค่าของการวัดทีได้จะบอกเป็น นี้ว หรือเซนติเมตรก็ได้ เช่น
12" x 15" x 6" ถ้าเป็นเซนติเมตรก็จะได้ 30.48 cm. x 38.1cm. x 15.24 cm.ค่าทีได้จะเป็น
กว้าง x ยาว x สูง(หรือลึก)
|
|
|
|